Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

วิตามินซี กับประโยชน์ที่ควรรู้

วิตามินซี (Vitamin C) หรือมีอีกชื่อเรียกว่า กรดแอสคอร์บิค (Ascorbic Acid) จัดเป็นวิตามินสารพัดประโยชน์ตัวหนึ่ง ซึ่งก็รวมไปถึงประโยชน์ในการรักษาสิวด้วย แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยลดการเกิดสิวสักเท่าไร จะหนักไปทางช่วยรักษาริ้วรอย รอยแดง จุดด่างดำ จากสิวซะมากกว่า เนื่องจากวิตามินซีนั้นเป็นสารตั้งต้นสำหรับผิวในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มเซลผิวที่ถูกทำร้ายให้ดีดังเดิม ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ซึ่งเหมาะกับคนที่เป็นรอยสิว หลุมสิวอย่างยิ่ง เพราะคนที่มีปัญหาแบบนี้คือคนที่คอลลาเจนที่อยู่ในผิวถูกทำลายอย่างรุนแรง บางรายที่เป็นหลุมสิวลึกๆนั้น ผิวบริเวณนั้นก็มักจะมีพังผืดไปยึดเกาะไว้ ทำให้เซลผิวไม่สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้

วิตามินซีเป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับสัตว์บางอย่างรวมทั้งมนุษย์ คำว่า วิตามินซี รวมเอาสารประกอบทางเคมีที่ทั่วไปมีโครงสร้างคล้ายกันหลายชนิดที่เรียกว่า vitamer มีฤทธิ์วิตามินซีในร่างกายสัตว์ ซึ่งรวมกรดแอสคอร์บิคและเกลือของมัน เกลือแอสคอร์เบต ดังเช่น โซเดียมแอสคอร์เบต (sodium ascorbate) และแคลเซียมแอสคอร์เบต (calcium ascorbate) มักใช้ในอาหารเสริม ซึ่งสลายเป็นแอสคอร์เบตเมื่อย่อย ทั้งแอสคอร์เบตและกรดแอสคอร์บิกมีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย เพราะทั้งสองแปลงรูปเป็นกันและกันได้แล้วแต่ความเป็นกรด (pH) ส่วนรูปแบบโมเลกุลที่ออกซิไดซ์ เช่น กรดดีไฮโดรแอสคอร์บิก (DHA) สามารถเปลี่ยนกลับเป็นกรดแอสคอร์บิกด้วยตัวรีดิวซ์ (reducing agent)

ประโยชน์ของวิตามินซี

  • มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ให้ผิวมีความเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
  • มีฤทธิ์เป็นยาระบาย แก้ปัญหาท้องผูก และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้หากทานมากไปก็อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียแทนได้
  • ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง เพราะวิตามินซีจะทำหน้าที่ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และขจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
  • ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ลดอาการไข้หวัด และต่อต้านเชื้อไวรัสต่างๆ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • สลายไขมัน ลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยลดความดันได้ดี
  • ช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • บำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดและปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ
  • ช่วยรักษาแผลผ่าตัดให้หายเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีการผ่าตัด

อาการเมื่อร่างกายขาดวิตามินซี

  • มีเลือดออกตามไรฟัน หรือมักจะมีอาการปวดบริเวณเหงือกบ่อยๆ ซึ่งบอกได้ถึงเหงือกที่ไม่แข็งแรง
  • เจ็บกล้ามเนื้อ และมีอาการอ่อนแรง ทั้งที่ไม่ค่อยได้ยกของหนักสักเท่าไหร่ และมักจะมีอาการปวดแปลบๆ บ่อยๆ
  • ปากแห้งแตกเป็นขุย แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝน
  • แผลหายช้ากว่าปกติ
  • อ่อนเพลียและรู้สึกเบื่ออาหาร อยากนอนนอยู่ตลอดเวลา แถมไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเอาเสียเลย
  • ผิวแห้งกร้านคล้ำเสีย ถึงแม้ว่าจะบำรุงผิวอยู่เป็นประจำก็ตาม เนื่องจากเมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ก็จะทำให้ขาดคอลลาเจนที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงผิวไปด้วย
  • เสี่ยงโรคหัวใจ โรคกระดูกและโรคหลอดเลือดสูง
  • ภูมิต้านทานต่ำ เป็นหวัดง่าย มักจะเป็นๆ หายๆ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้สูง

ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน

องค์การอนามัยโลก ได้แนะนำว่า หากเรากินผักผลไม้ให้ได้ 400 กรัมต่อวัน จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งการกินผักผลไม้ 400 กรัมนั้น ร่างกายจะได้รับวิตามินซีประมาณ 210-280 มิลลิกรัม ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการวิตามินซีของร่างกายต่อวัน นอกจากจะได้รับวิตามินซี ผักผลไม้ ยังเป็นแหล่งสำคัญของใยอาหาร แร่ธาตุ วิตามินชนิดอื่นๆ และ สารพฤกษเคมีต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย

YAO INNOFOOD PLUS CO.,LTD.
บริษัท วายเอโอ อินโนฟู้ด พลัส จำกัด

444 หมู่ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290

Copyright © 2024 YaoCordyceps